วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2553

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553

ปลาจ๊าบมาอีกแล้ววว

หายไปหลายวันครับ กลับมาคราวนี้มีปลามาแนะนำตัวสองตัวครับ ไม่ต้องพูดมากแล้วดีกว่า ไปชมกานเลยครับ

ตัวแรกเลยครับ ปลาสวยๆ แถมยังพ้นน้ำได้อีกด้วย เราจึงเรียกมันว่า ปลา เสือพ้นน้ำ

ปลาเสือพ่นน้ำ (Archer Fishes) เป็นปลาในอันดับ (Order) Perciformes วงศ์ (Family) Toxotidae พบอยู่ทั้งหมด 6 ชนิดด้วยกัน
ซึ่ง ปลาในวงศ์นี้มีลักษณะที่แตกต่างจากปลาในวงศ์อื่นๆ คือ ปลาเสือพ่นน้ำจะมีลำตัวที่แบนลึกข้างค่อนข้างมาก ขอบหลังไล่ตั้งแต่ช่วงครีบไปจนถึงหางมีลักษณะเกือบเป็นเส้นตรง ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษในกลุ่มปลาที่อาศํยอยู่บริเวณผิวน้ำ ปากมีขนาดใหญ่และมีลักษณะเฉียงลงลึก ครีบหลังและครีบก้นอยู่ค่อนไปทางด้านท้ายลำตัว พื้นลำตัวทางตอนบนจะมีสีออกเขียวอมเหลืองและจะจางเป็นสีเงินบริเวณใต้ท้อง ข้างลำตัวจะมีจุดสีดำแต้มอยู่ ซึ่งจุดจะมีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับชนิดของมัน


ในประเทศไทยพบปลาเสือพ่นน้ำถึง 3 ชนิด
ปลาเสือพ่นน้ำมีวีธีหาอาหารที่ มีรูปแบบเฉพาะตัว คือ มันจะใช้วีธีพ่นน้ำใส่แมลงที่เกาะกิ่งไม้หรือใบไม้บริเวณผิวน้ำให้ตกลงในน้ำ หลังจากนั้นแมลงก็จะตกเป็นอาหารของมัน
เมื่อปลาเสือพ่นน้ำพ่นน้ำออกไป โดยการปิดฝาปิดเหงือกอย่างทันที น้ำในช่องเหงือกจะถูกดันให้ออกมาทางปากทีละหยดๆต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆจนกว่า เหยื่อจะตกลงมา การพ่นน้ำทีละหยดๆอย่างต่อเนื่องทำให้เรามองเห็นน้ำพุ่งเป็นสายออกมาจากปาก ปลาเสือพ่นน้ำ


มิใช่ว่าปลาเสือพ่นน้ำทุกตัว จะใช้วิธีล่าเหยื่อแบบนี้เสมอไป การพ่นน้ำเพื่อล่าเหยื่อนั้นทำได้จริงๆกับพวกปลาเสือพ่นน้ำที่โตเต็มที่แล้ว แต่ไม่ใช่ว่าตัวที่ยังโตไม่เต็มที่จะพ่นน้ำไม่ได้ ทุกตัวสามารถพ่นน้ำได้หมดแต่ระยะทางของน้ำที่พ่นออกไปในตัวยังเล็กก็จะพ่น น้ำออกไปได้เพียงแค่ 10 เซนติเมตร ในขณะที่ตัวเต็มวัย จะสามารถพ่นน้ำได้ไกลถึงเกือบ 2 เมตร

มีข้อสังเกตุอีกอย่าง คือ หากว่าในแหล่งน้ำที่ปลาเสือพ่นน้ำอาศัยอยู่ หรือ ในตู้เลี้ยง ที่มีอาหารให้มันเพียงพอ พวกมันจะไม่แสดงพฤติกรรมการพ่นน้ำ เพราะโดยธรรมชาติปลาเสือพ่นน้ำจะกินพวก แมลง และสัตว์ตัวเล็กๆตามผิวน้ำ เช่น ปลาเข็ม หรือลูกปลา



ากปลาเสือพ่นน้ำ พ่นน้ำใส่เหยื่อของมันแล้วเหยื่อมันก็ไม่ร่วงซักทีมันก็มีอีกวิธีหนึ่งที่จะ เอาแมลงเคราะห์ร้ายมาลงท้่องของมัน คือ มันจะดีดตัวพุ่งขึ้นมาเหนือผิวน้ำเพื่อใช้ปากของมันงับเหยื่อเคราะห์ฺร้าย ตัวนั้น โดยมันสามารถโดดได้สูงถึง 1 ฟูตเลยทีเดียว แต่วิธีนี้ปลาเสือพ่นน้ำไม่ค่อยนิยมใช้ซักเท่าไหร่



ปลาเสือพ่นน้ำ บางชนิดเมื่อโตเต็มที่มีขนาดใหญ่ได้ถึง 40 เซนติเมตร ในขณะที่สายพันธุ์็ที่พบอยู่ในประเทศไทย มีขนาดเมื่อโตเต็มที่อยู่ที่ประมาณ 15 เซนติเมตร
การแพร่พันธุ์ ปลาเสือพ่นน้ำจะว่ายออกมาในเขตแนวประการังเพื่อออกมาวางไข่ จำนวน 20,000 - 150,000 ฟอง เมื่อลูกปลาออกจากไข่ก็จะอาศัยอยู่ในเขตป่าชายเลน
ปลาชนิดนีั้มีราคาไม่แพง และเป็นปลาที่มีนิสัยแปลกๆ น่าจะหามาติดตู้ไว้นะครับ รับรองว่่าเพลินแน่

ตัวต่อไป เป็นขาโหดบ้างครับ ใครชอบเลี้ยงปลาแปลกไม่รู้จักไม่ได้ครับ สำหรับคนที่ไม่เคยเลี้่ยงปลา จะแนะนำให้รู้จักกับ อัลลิเกเตอร์ หรือ ปากไอ้เข้

ปลา อัลลิเกเตอร์ หรือ ปากไอ้เข้
ชื่อทางการว่า Atractosteus spatula
ถิ่นอาศัย อเมริกาเหนือ และ ใต้ (อเมซอน)
สภาพแวดล้อม น้ำจืด อุณภูมิ 28-30 องศา ท้องน้ำกว้างๆ
อาหาร สัตว์น้ำทุกชนิดที่เล็กกว่าปากมัน อาจยกเว้นพวก เต่า
ขนาด โตเต็มที่ 3 เมตร หนักราว 130 กิโลกรัม



ปลา อัลลิเกเตอร์ เข้ามาบ้านเรานานมากแล้ว มีลักษณะเด่นที่ปากคล้ายจรเข้มาก มีฟันแหลมคม และ ขากรรไกรอันทรงพลัง ทำให้ชาวบ้านที่เจอเข้าใจผิดคิดว่าจระเข้ นิยมเลี้ยงกันในบ่อ หรือ ตู้ใหญ่ๆ เพราะมันโตเร็วมาก


การเลี้ยงดูไม่ยากเย็นนัก อาหารเป็นพวก ลูกปลา ลูกกุ้งตลอดจน เนื้อปลา เนื้อกุ้ง ทั่วไป ไม่นิยมเลี้ยงรวมกับแทงค์เมท ที่มีขนาดเล็ก กว่า เพราะปลาตัวนี้นิสัยค่อนข้างดุร้าย กัดไม่เลือก หรือ บางทีก็กินเลย คนทางอเมริกา นิยมใช้ปลาพวกนี้ เป็นเกมส์ตกปลา ล่าเหยื่อด้วยความเร็วสูง ชอบลอยตัวนิ่งๆพอเหยื่อมาไกล้ก็ ฮุบเต็มๆ

เนื่องจากเป็นปลาที่กินทุกอย่างที่ขนาดเล็กกว่าปาก จึงอาจจะทำให้ปลาชนิดนี้อ้วนจนเสียทรง และอาจจะเป็นอันตรายต่อปลา ผู้เลี้ยงควรจะให้อาหารแต่พอดีไม่มากหรือน้อยเกินไป

ลองไปดูการกินเหยี่อยของมันกันนะครับ



โหดชัดเจน

สำหรับวันนี้ คงพอแค่นี้ก่อนนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม
Credit : http://www.genepoolaquarium.com/

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553

การจัดตู้ปลาแบบโปรๆ

วันนี้มีเป็น VDO คริป มาเสนอครับ ไปดูว่าเค้าจัดตู้ปลากันอย่างไรให้สวยงามเหมือนมืออาชืพ อิอิ

วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553

ตู้ปลาสวยๆ

วันนี้จะพาไปชมตู้ปลาของเพื่อนๆกันนะครับ

ตู้แรกแปลกๆไปก่อนนะครับ



สวยทั้งปลาทั้งตู้ครับ



จัดไปยาวๆ



นี่แนะ ฟรอนตัวโตๆกับตู้ปลาสวยๆ


อิจฉาไอนี่จัง


ปลาจ๋าปลา


ปิดท้ายด้วยรูปนี้เลย ต้องตั้งไว้ไกลมือเด็กนะ ไม่งั้น.... หึๆ



บ๊ายบายครับไว้เจอกันใหม่คราวหน้า

วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553

การทำโครงกระดูกปลา

ถ้าปลาสุดที่รักของเราตาย เราจะทำไงดี ถึงแม้จะไม่มีชุบชีวิตปลา แต่เราก็มีวิธีเก็บโครงกระดูกเค้าไว้นะครับ

ทำยังไงไปชมกันเลยจ้า

ขั้นตอนมีดังนี้นะครับ
1. นำปลามาแล่เนื้อออกให้ได้มากที่สุด ทั้ง 2 ข้างครับ ระวังอย่างให้กระดูซี่ครงหักล่ะ ไม่งั้นงานเข้าแน่ เอาพวกไส้ออกด้วยนะครับ ส่วนปลาตัวไหนที่มีครีบท้องที่ไม่ติดกับกระดูก(คือมันติดกับส่วนอื่นด้วย กล้ามเนื้อไม่ใช่กะดูก)ก็ตัดแยกออกมาเลย เข่น ตะเพียน,เทพา แต่ถ้าตัวไหนติดก็ให้มันติดกับโครงปลาไปก่อนครับ

2. ขั้นนี้เราจะเอาเหงือกปลาออกนะครับ พอเราเอาออกได้แล้วก็ใช้กรรไกรตัดเนื้อที่ติดมาออกไปนะครับ เสร็จแล้วเราจะนำไปแช่ในสารละสายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(หาซื้อได้ตามร้านขาย ยาทั่วไป 3% - 6 % ) แช่ประมาณวันนึงอ่ะครับ หรือจนกว่ามันจะขาว

3. ทีนี้เราจะเราจะแยกส่วนของกระดูกชุดที่เป็นครีบอกออกนะครับ เราลองสังเกตดูตรงส่วนที่เลยจากแผ่นปิดเหงือก มันจะมีกระดูกที่เชื่อมกันอยู่ระหว่างส่วนที่ติดกับกะโหลกกับกระดูกครีบอก สังเกตดูตรงที่มันขยับได้ต้องลองเลื่อนดู มันจะซ้อนกันอยู่เราใช้มีดค่อยๆแซะขึ้นไปทางด้านบนอ่ะครับ กระดูกที่ติดกับกะโหลกจะทับอยู่ค่อยๆแซะ พอข้างนึงหลุดแล้วก็ไปอีกข้างนึง พอหลุดแล้วเราก็แยกไว้รวมกับครีบของข้อ 1.

4. ขั้นนี้จะเป็นการแยกหัวออกจากกระดูกลำตัวนะครับ ใช้มีดเชี่ยเศษเนื้อหรือพวกเยื่อต่างๆออกตรงบริเวณส่วนหัวเพื่อให้เห็นรอย ต่อกระดูก สังเกตข้อต่อข้อแรกซึ่งจะเชื่อมระหว่างกะโหลกกับกระดูกลำตัว มันจะโยกได้ลองดูนะครับ เมื่อเจอแล้วเราก็ใช้มีดตัดลงไป ตัดเสร็จใช้มีดค่อยๆตัดเนื้อที่ติดอยู่ออก เท่าหัวก็จะแยกออกแล้วครับ

5. มาถึงขั้นตอนที่ยากที่สุดแล้วครับ ผมว่านะ ตอนนี้เราจะมีชิ้นส่วนที่แยกกันออกทั้งหมด 5 ชิ้นนะครับ คือ หัว เหงือก(ที่เราแช่อยู่) ชุดของครีบอก ชุดครีบท้อง กระดูกส่วนลำตัวทั้งหมด พอนึกออกป่าว เริ่มเบื่อกันยังครับ 555+ ขั้นนี้มีหลักว่า “เอาเนื้อออกจากกระดูกให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้” แค่นี้อ่ะครับ แต่มันไม่ใช่แค่นี้สิ 555+ เริ่มจากชิ้นเล็กก่อนก็ได้ครับ เราไม่จำเป็นต้องไปแยกชิ้นส่วนต่างๆที่ผมบอกมาแล้วนะครับนอกจากมันจะหลุดแบบ ไม่ตั้งใจ ส่วนตัวนี่เราใช้แปรงสีฟันถูๆออกก็ได้ครับ ถ้าไม่ออกก็เอามีค่อยๆกรีดเนื้อออกเอา(***ระวังกระดูซี่โครงด้วยนะ หลุดแล้วจำด้วยว่าอยู่ส่วนไหน***) ต่อมาหัว เฮ้อ......เอาตาออกก่อนครับ เอาเนื้อตรงแก้มออก เราก็ต้องเอา”เข็มเขี่ย”แคะสมองออกมา ครับพยายามเอาเนื้อออกมาให้หมดนะครับไม่งั้นเน่า เมื่อทำชิ้นส่วนไหนเสร็จแล้วเราก็นำไปแช่รวมกับเหงือกอ่ะครับ บางครั้งแช่ไปเนื้อยังออกไม่หมดก็เอาขึ้นมาเอาเนื้อออกได้อีกมันจะเปื่อย กว่าเดิม ขั้นนี้ต้องใจเย็นนะครับ

6. ตอนนี้เหงือกเริ่มจะขาวแล้วให้นำขึ้นมาตากลมไว้ครับ แล้วก็นำชิ้นส่วนขึ้นมาตากด้วยถ้ามันขาวแล้ว เซตพวกก้านครีบต่างๆให้กางไว้ครับ จะได้สวยๆ รอจนแห้ง

7. มาถึงขึ้นตอนการประกอบแล้วครับ เอ่อ...เหงือกนี่ไม่ต้องติดเข้าไปในกะโหลกนะครับ เริ่มจากชุดกะโหลกกับชุดครีบ ต่อกันโดยกาวตาช้าง รอแห้งค่อยต่อหัวกับตัว ส่วนครีบท้องมันไม่ได้เชื่อมกับกระดูกอะไรอยู่แล้วก็ปล่อยมันไป


8. ใช้แลกเกอร์พ่นทับซัก 2 ชั้นก็โอเคแล้วครับ พอแห้งเราก็หาที่ใส่ เซตครีบท้องให้อยู่ในตำแหน่งของมัน

เรียบ100 ครับสวยงามเหมือนมืออาชืพ

Credit: คุณ Wolf : http://www.pantown.com/board.php?id=2888&area=4&name=board1&topic=6492&action=view

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ปลาช่อนตัวละแสน

มีด้วยเหรอปลา่ช่อนตัวละ100,000 แถวบ้านขายโลละ100เอง

ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆครับ ชมรูปเอาเลยดีกว่า



งามมั้ย



อีกซักรูปครับ



สำหรับปลาช่อนตัวนี้ ยังไม่มีใครสามารถบอกฟันธงบอกได้ว่าเป็นพันธ์อะไรนะครับ รู้แค่ว่่าจะต้องเป็นสุดยอดปลา ของสายพันธ์นั้นๆอย่างแน่นอน หน้าหามาติดตู้ไว้มากมายครับ ติดอย่างเดียวก็ที่ราคานี้แหละ ตัวละ 100,000 ทำไปได้